»»» 3.7.1 ด้านราชการ
»»» 3.7.2 ด้านงานธุรกิจ
»»» 3.7.3 ด้านการคมนาคมขนส่ง
»»» 3.7.4 ด้านงานการศึกษา
»»» 3.7.5 ด้านงานวิทยาศาสตร์และการแพทย์
»»» 3.7.6 ด้านงานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม
»»» 3.7.7 งานอื่นๆ
คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราทุกคน ทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน ต่างก็มีคอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในระบบการทำงาน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างงานต่างๆกล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทและเป็นส่วนสำคัญในด้านต่างๆดังต่อไปนี้
3.7.1 ด้านราชการ (government)
หน่วยงานราชการเป็นหน่วยงานที่นำคอมพิวเตอร์มาใช้งานในการบริการด้านต่างๆ ตามบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานนั้น เช่น
กรมสรรพากร ได้วางระบบบนเว็บไซต์ สำหรับให้บริการคำนวณภาษี เสียภาษี และรายการต่างๆ
ที่ว่าการอำเภอ ใช้คอมพิวเตอร์จัดเก็บข้อมูลการแจ้งเกิด แจ้งตาย ย้ายที่อยู่ หรือทำบัตรประชาชน
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ใช้คอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลสถิติสำมะโนประชากร หรือวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ เป็นต้น
รูปที่ 3.45 เว็บไซต์ของกรมสรรพากรที่ให้บริการเกี่ยวกับภาษี
ที่มา : https://moneyhub.in.th/wp-content/uploads/2016/01/tax1.jpg
คอมพิวเตอร์ถูกนำมาใช้กับงานด้านธุรกิจ ทั้งการจัดทำเอกสาร นำเสนองาน โดยนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้กันทั่วไป เช่น Microsoft office มาใช้กันอย่างแพร่หลาย และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น ห้างสรรพสินค้าใช้คอมพิวเตอร์ในการทำระบบบัญชีสำเร็จรูป เพื่อทำรายการซื้อและขายสินค้า การตรวจสอบยอดคงเหลือของสินค้า ธุรกิจออนไลน์นำคอมพิวเตอร์มาใช้งานในรูปแบบของการซื้อและขายสินค้าผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต (e-commerce) การทำธุรกิจในการรับชำระเงินค่าเช่าซื้อสินค้าและค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ที่มีการออนไลน์ข้อมูลกับหน่วยงานหลักเพื่อทำการตัดยอดบัญชีโดยอัตโนมัติ
งานธนาคารที่บริการการฝากเงิน การถอนเงิน การโอนเงิน การกู้ยืมเงิน การคิดดอกเบี้ย รวมถึงการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-banking) หรือการทำธุรกรรมต่างๆ โดยใช้โทรศัพท์มือถือผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ (m-banking) ที่มีความสามารถเท่าเทียมกับคอมพิวเตอร์แบบพกพา นอกจากนี้ยังสามารถชำระค่าบริการและค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบริการผ่อนชำระสินค้าผ่านบัตรเครดิต การเติมเงินมือถือ การซื้อขายหุ้นเป็นต้น
รูปที่ 3.46 การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ที่มา : http://eclaim3.emcsthai.com/eclaim/billpaymentweb/img/bbl-iBanking2.jpg
การคมนาคมและการขนส่ง เช่น การเดินทางโดยเครื่องบิน เรือ รถไฟ รถไฟฟ้า และรถประจำทาง ได้มีการนำคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนสำคัญในการให้บริการแก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การสำรองที่นั่ง ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การออกบัตรโดยสารออนไลน์ การตรวจสอบเส้นทางและตารางเดินทาง มีส่วนช่วยในการบริหารจัดการ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย
นอกจากนี้คอมพิวเตอร์ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการควบคุมระบบการจราจร เพื่อช่วยจัดระเบียบเส้นทางการจราจรให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยังมีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างสถานการณ์จำลองการบินสำหรับนักบินฝึกหัด โดยจำลองการขับเครื่องบินเสมือนจริงช่วยประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักบินและผู้โดยสารได้อีกด้วย
รูปที่ 3.47 การนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการคมนาคม การสำรองที่นั่ง
ที่มา :
http://3.bp.blogspot.com/-MhYULLvh6rw/UkCmVUrh7FI/AAAAAAAARAU/4mjg5sqESrM/s1600/Screen+Shot+2556-09-24+at+2.24.48+AM.jpg
สถาบันการศึกษาในปัจจุบันนี้มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียนการสอนโดยการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) โดยสื่อนี้จะนำรูปแบบของภาพ เสียง ตัวอักษร และเทคนิคการนำเสนอต่างๆที่น่าสนใจ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถทบทวนได้ตลอดเวลา และการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต(e-learning) สร้างบทเรียนออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยให้ผู้เรียนที่อยู่ห่างไกลและไม่สะดวกเข้าชั้นเรียน สามารถเรียนรู้ผ่านระบบได้ด้วยตนเอง รวมถึงใช้ในการบริหารโรงเรียน เช่น งานทะเบียน งานวัดผลการเรียน การยืม และคืนหนังสือห้องสมุด เป็นต้น

รูปที่ 3.48 การเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ที่มา : https://home.kku.ac.th/acamed/moodle/editcourse01.JPG
นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ได้นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการศึกษา คำนวณ ค้นคว้า วิจัย รวมทั้งจำลองสิ่งต่างๆในทางวิทยาศาสตร์ให้อยู่ใน
รูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น และสร้างผลงานทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เช่น การจำลองรหัสพันธุกรรม การพยากรณ์อากาศ การสำรวจการขุดเจาะทรัพยากรธรณี การเตือนแผ่นดินไหว การทำแผนที่จากภาพถ่ายดาวเทียม การสำรวจอวกาศขององค์กรนาซา เป็นต้น
อีกทั้งยังมีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานร่วมกับเครื่องมือและอุปกรณ์สมัยใหม่ในการวินิจฉัยโรคและตรวจสอบอาการของไข้ เช่น เครื่องตรวจวัดคลื่นหัวใจ เครื่องตรวจวัดคลื่นสมอง เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่สามารถสร้างภาพสามมิติของอวัยวะภายใน ช่วยให้แพทย์สามารถรักษาและวินิจฉัยโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี่ยังใช้ระบบการเงิน สถิติ ข้อมูลของคนไข้ โดยโรงพยาบาลบางแห่งมีการเชื่อมโยงประวัติข้อมูลของคนไข้ เมื่อมาพบแพทย์อีกครั้งก็สามารถเรียกดูประวัติของคนไข้ว่าเคยแพ้ยาชนิดใด มีโรคประจำตัวหรือไม่ มีกรุ๊ปเลือดอะไร เพื่อให้แพทย์สามารถทราบข้อมูลเบื้องต้น เพื่อให้สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

รูปที่ 3.49 เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ สามารถสร้างภาพสามมิติของอวัยวะภายใน
ที่มา : http://www.seriruk.co.th/center/new-neuro/images/CT_%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%9B.jpg
วิศวกรและสถาปนิกนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการออกแบบ เขียนแบบ หรือจำลองโครงสร้างของงานต่างๆ เช่น การออกแบบอาคารพาณิชย์ การสร้างเขื่อนเพื่อรองรับน้ำฝน การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ เป็นต้น โดยคอมพิวเตอร์จะช่วยในการคำนวณที่ซับซ้อน และแสดงผลถึงประสิทธิภาพของงานที่ออกแบบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การคำนวณที่ถูกต้องและรวดเร็ว เช่น การคำนวณวงโคจรของดาวเทียม เพื่อใช้ในการรับและส่งสัญญาณดาวเทียม เป็นต้น
รูปที่ 3.50 การใช้คอมพิวเตอร์ในงานด้านสถาปนิก
ที่มา :
https://sites.google.com/a/saharaj.ac.th/kroowatcharapong/_/rsrc/1469075487115/hnwy-thi-1-rabb-khxmphiwtexr/1-2-bthbath-khxng-khxmphiwtexr/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E16%20%28Custom%29.png
3.7.7 งานอื่นๆ
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว คอมพิวเตอร์ยังมีบทบาทด้านอื่นๆ หลายด้าน เช่น งานละคร
งานโฆษณา งานโรงแรม การนำเข้าสินค้า การส่งออกสินค้า การประชุมทางไกล การวิเคราะห์ตลาดหุ้น เป็นต้น โดยคอมพิวเตอร์จะช่วยออกแบบ ลงทะเบียน ตรวจสอบ บันทึก และเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
รูปที่ 3.51 การประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย (Video Conference System)
ที่มา :
https://www.paradisosolutions.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/moole_webex_integration2.jpg